จำได้ว่าตั้งแต่คริสเตียน อีริคเซน เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเดนมาร์ก ล้มฟุบหมดสติไปในศึกยูโร 2020 เมื่อกลางปีที่แล้ว “มะระหวาน” ก็ได้เขียนถึงกองกลางเลือดเดนส์ถึง 4–5 ครั้ง
นับตั้งแต่ตอนช็อกวูบหมดสติ จนมาถึงตอนมาใส่เครื่องกระตุกหัวใจ แม้กระทั่งตอนยกเลิกสัญญากับ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน และสุดท้ายคือตอนที่อีริคเซนได้เซ็นสัญญาย้ายมาร่วมทีม “ผึ้งพิฆาต” เบรนท์ฟอร์ด และเตรียมกลับมาลงเล่นฟุตบอลอาชีพอีกครั้ง
ทั้งๆที่ไม่ถึงปีก่อนหน้านั้นเจ้าตัวเพิ่งหัวใจวายและวูบหมดสติลงไปนอนกองอยู่กับพื้นจนเพื่อนร่วมทีมต้องปั๊มหัวใจด่วนจนกลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุกับอีริคเซนนั้น หลายคนมองว่าชีวิตการเป็นนักเตะอาชีพของเจ้าตัวสิ้นสุดลงแน่นอนแล้ว เพราะอาการที่เกิดขึ้นนั้นค่อนข้างหนักกับการที่ต้องกลับมาออกกำลังกายอย่างจริงจังและแข่งขันแบบหนักหน่วงในกีฬาอาชีพอีกครั้ง
แต่อีริคเซนเคยให้สัมภาษณ์ว่าเจ้าตัวไม่เคยคิดว่าจะต้องแขวนสตั๊ดเลยแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าเพิ่งจะผ่านการเฉียดตายมาหมาดๆ
พอฟื้นคืนมากองกลางวัย 30 ปี ก็ได้เริ่มพูดคุยกับทีมแพทย์ทันทีว่าตัวเขามีโอกาสที่จะกลับมาค้าแข้งอีกหรือไม่? ซึ่งถ้าบอกว่าไม่เขาก็พร้อมที่จะเลิกทันที แต่ถ้าบอกว่ายังมีโอกาสเขาก็พร้อมที่จะสู้เต็มที่เพื่อที่จะกลับมาทำในสิ่งที่เขารักอีกครั้ง
และเมื่อทีมแพทย์บอกว่าเขายังมีโอกาส นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็เริ่มวางแผนที่จะกลับมาคัมแบ็กให้ได้เร็วสุด
จนสุดท้าย อีริคเซนก็สามารถเรียกความฟิตเพื่อกลับมาค้าแข้งได้อีกครั้งโดยมีเครื่องกระตุ้นหัวใจติดตัวเอาไว้ด้วยกันเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง
โดยเป็นเบรนท์ฟอร์ดที่อ้าแขนรับอีริคเซน กลับมาค้าแข้งอีกครั้ง
จริงๆหลายคนก็แอบเป็นห่วงที่อดีตกองกลางทอตแนม ฮอตสเปอร์ เลือกย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก เพราะลีกแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นลีกที่ดุเดือด
เลือดพล่านและหินที่สุด แถมแต่ละเกมยังต้องใช้พลังงานเยอะเลยทีเดียว
กลัวว่า “อีริคเซน” จะรับไม่ไหว!!
แต่กองกลางเลือดเดนส์ไม่แคร์ เพราะไม่มีใครรู้จักสภาพร่างกายของเขาได้ดีไปมากกว่าเขา
เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้ว เขาย่อมรู้ว่าลิมิตของเขาอยู่ตรงไหน ไหวก็คือไหว ไม่ไหวก็คือไม่ไหว เขาระวังตัวเองอย่างเต็มที่
หลังจากกลับมาเล่นอาชีพกับเบรนท์ฟอร์ด ได้แล้ว นั่นคือเป้าหมายแรกของเขาเสร็จสิ้นลงเพราะได้กลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพระดับสูงอีกครั้ง
ส่วนเป้าหมายที่สองของตัวเขาก็คือการติดทีมชาติเดนมาร์กไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ปลายปีนี้
เป้าหมายนี้ก็ไม่ยากเมื่อเจ้าตัวฟิตเปรี๊ยะ คาสเปอร์ ฮูลมันด์ เทรนเนอร์เดนมาร์ก ก็เรียกเขามาติดทีมชาติทันที เพราะอีริคเซนคือคนสำคัญของทัพ “โคนม” ที่จะขาดไม่ได้อยู่แล้ว
ซึ่งอีริคเซนก็ตอบแทนเทรนเนอร์ด้วยการซัลโวประตูให้เดนมาร์กทันทีในเกมที่บุกไปพ่าย ฮอลแลนด์ 2-4 เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาคืนทีมชาติได้สวยสดงดงาม
หลังจากนี้เชื่อว่ากองกลางวัย 30 ปี จะกลับมาโลดแล่นบนฟลอร์หญ้าได้ปกติเหมือนช่วงซัมเมอร์ที่แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เรียกได้ว่า “อีริคเซน” คือแมวเก้าชีวิตในวงการลูกหนังของจริง!!
สนับสนุน Tiger168 โดย Line : @Tiger168s