เมืองแมนเชสเตอร์ กลายเป็นสีฟ้าไปทั่วเมือง หลังจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ถล่ม “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปขาดลอย 6-3 แถมยังเป็นการชนะแบบเอาต์ คลาสเลยทีเดียว
โดยเฉพาะครึ่งแรกที่แมนฯ ซิตี้ โชว์ฟอร์มไล่ยำใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ฝ่ายเดียว เรียกได้ว่าเล่นเอาผู้เล่น “ปิศาจแดง” ไปกันไม่เป็นเลย ยิ่งเจอบอลเร็วของซิตี้ เล่นเอาแข้ง “ผี” วิ่งหาบอลกันไม่เจอ สุดท้ายก็โดนส่องประตูไปในที่สุด
ในช่วงครึ่งแรก “ปิศาจแดง” ก็เล่นแบบเกรงกลัวแมนฯ ซิตี้มากเกินไป จนทำให้ไม่เป็น ตัวของตัวเอง ไม่กล้าแม้กระทั่งจะเล่นบอลและเก็บบอลไว้กับตัว
แต่พอมาครึ่งหลังผู้เล่นยูไนเต็ด เล่นได้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ จนสามารถยิงได้ถึง 3 ประตูด้วยกัน ถ้าถามผู้เขียนในฐานะสาวก “เรด เดวิลส์” ก็ค่อนข้างพอใจ
เพราะจากฟอร์มครึ่งแรกแต่กลับมายิง “เรือใบสีฟ้า” ได้ถึง 3 ประตูถือว่าก็พอจะยอมรับได้ เท่านั้นยังไม่พอผู้เล่นแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังแสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจที่ไม่ยอมแพ้
ตอนที่ “ปิศาจแดง” แม้ว่าจะโดนนำห่างไปถึง 1-6 บอกตรงๆก็นึกว่าจะถอดใจไปกันหมดแล้ว แต่สุดท้ายทั้ง 11 ตัวก็ไม่มีใครยอมแพ้ก็ยังสู้ไม่ถอย จนสุดท้ายยิงเพิ่มได้อีก 2 ประตู
บอกตรงๆถ้าเกมนี้ “ปิศาจแดง” ไม่กลัวมากเกินไปตั้งแต่แรกเกมน่าจะสูสีและน่าจะออกมาสนุกมากกว่านี้
จริงๆในเกมนี้คนที่โดดเด่นมากที่สุดก็คงไม่พ้นเออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ และฟิล โฟเดน ปีกทีมชาติอังกฤษ ที่กดแฮตทริกด้วยกันทั้งคู่
แต่คนที่ปิดทองหลังพระมากที่สุดก็คือ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางทีมชาติเบลเยียม ที่เป็นผู้บัญชาเกมกลางสนามของ “เรือใบสีฟ้า” ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเกมนี้เจ้าตัวทำอีก 2 แอสซิสต์ด้วยกัน ทำให้เจ้าตัวทำไปแล้ว 8 แอสซิสต์จาก 8 เกมในฤดูกาลนี้
ทำให้ตอนนี้เคดีบีเพิ่มยอดสะสมเป็น 94 แอสซิสต์ ทำให้แซงหน้าสตีเวน เจอร์ราร์ด (อันดับ 6) รวมถึงดาวิด ซิลบา (อันดับ 5) ที่ทำไป 93 ครั้ง ขึ้นไปรั้งในอันดับ 5 ของนักเตะที่แอสซิสต์มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกเท่ากับเดนนิส เบิร์กแคมป์ ตำนานทีมชาติฮอลแลนด์ของอาร์เซนอล
แต่สิ่งที่สำคัญมากๆ คือ การประสานงานระหว่างเคดีบี กับฮาแลนด์ ที่เคมีเข้าขากันแบบลงตัวสุดๆ
ไม่ว่าฮาแลนด์จะวิ่งไปตรงไหนอยู่ตรงปาก ประตู ลูกบอลจากเดอ บรอยน์ จะลอยมาหาดาวยิงชาวนอร์วีเจี้ยนเสมอ
เช่นเดียวกับเคดีบี ที่ไม่ว่าจะเปิดบอลไปส่วนไหนก็จะมีฮาแลนด์อยู่ตรงนั้นเสมอ!!
เรียกได้ว่าเป็นการมองตาก็รู้ใจของจริง
ตอนที่ฮาแลนด์ย้ายมาใหม่ๆ หลายคนก็กังวลว่ากองหน้าวัย 21 ปีจะถล่มประตูยับเยินเพราะมี “เคดีบี” อยู่ในทีม
ซึ่งตอนนี้สุดท้ายมันก็เป็นจริง เคมีของทั้งคู่เข้ากันอย่างน่าเหลือเชื่อ และลองคิดดูแค่ 8 นัด ฮาแลนด์ยังยิง 14 ประตู เดอ บรอยน์ แอสซิสต์ไปแล้ว 8 ลูก
แล้วที่เหลืออีก 30 นัดหลังจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น!!
ดูแล้วว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปีนี้ก็คงต้องยกให้ “เรือใบสีฟ้า” ไปเลย
สนับสนุนโดย Tiger168 สมัครเล่นคาสิโนหรือสล็อตผ่าน Line : @Tiger168s