เป้าหมายการคว้า 4 แชมป์ของ “หงส์แดง” นั้นหลายคนอาจจะมองดูว่าเป็นฝันหวานที่อาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้ความฝันนี้ได้โอกาสเดินทางต่อไปหลังจากที่ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูลลงเล่นในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศปีนี้ต้องดวลกับ “สิงห์บลู” คู่ปรับเก่าที่เพิ่งเจอกันมาในรอบชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ ซึ่งเกมนั้น “หงส์แดง” ดวลจุดโทษชนะไปได้ 11-10 คว้าแชมป์มาครอง
มาเกมนี้ “หงส์แดง” ก็ย้ำแค้น เชลซี ได้อีกครั้งดวลเอาชนะจุดโทษไปได้ 6-5 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาที 0-0 ซึ่งผลการแข่งขันแบบนี้เหมือนกับเป็นการย้อนกลับไปเมื่อนัดชิงเดือนกุมภาพันธ์เลย
จากการเก็บชัยชนะเหนือเชลซีอีกคำรบครั้งนี้เหมือนเป็นการเดจาวูไปในรอบชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ เป๊ะเลยต้องตัดสินกันด้วยลูกจุดโทษ แค่ต่างกันไม่ต้องยิงครบ 11 คนเหมือนเดิม
ถือว่าเป็นการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เป็นสมัยที่ 8 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร และห่างจากการคว้าแชมป์รายการนี้ครั้งล่าสุดถึง 16 ปี
ถ้วยเอฟเอ คัพ ถือว่าเป็นถ้วยใบที่สองของลิเวอร์พูลในซีซันนี้หลังคว้าคาราบาว คัพ มาก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าพลพรรค “หงส์แดง” เดินมาถึงครึ่งทางของเป้าหมายการคว้า 4 แชมป์ในซีซันนี้
หลังจากคว้าดับเบิลแชมป์บอลถ้วยไปแล้วงานหนักยังรออยู่ในอีก 2 ถ้วยที่เหลืออยู่โดยที่หนักใจมากที่สุดก็คือถ้วยพรีเมียร์ลีกที่ตอนนี้ ลิเวอร์พูลตามหลังแมนฯ ซิตี้ อยู่ 3 คะแนน เหลือการแข่งขันอีก 2 นัด
โดยหาก “เรือใบสีฟ้า” บุกไปชนะเวสต์แฮม ในเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (ตอนนี้ท่านผู้อ่านคงรับทราบกันแล้วว่าผลออกมาเป็นเช่นไร) ก็จะฉีกหนีไปเป็น 6 คะแนนเลยทีเดียว
ซึ่งก็มีโอกาสค่อนข้างสูงเพราะแข้ง “เรือใบสีฟ้า” ชั่วโมงนี้บอกเลยไม่มีแผ่ว แถมยังไม่ต้องพะวงกับบอลรายการอื่นๆอีกด้วย มีเน้นบอลลีกอย่างเดียวจึงทำให้พลาดค่อนข้างยากเลยทีเดียว
ส่วนลิเวอร์พูล ถ้าหากโดนนำไป 6 คะแนนจริง วันอังคารนี้ก็ยิ่งห้ามพลาดในการที่จะต้องออกไปเยือนเซาแธมป์ตัน ในเกมนัดตกค้างที่เลื่อนมาจากรอบชิงเอฟเอ คัพ
เพราะถ้าพลาดไม่ได้ 3 แต้มก็คือจบยกแชมป์ให้กับแมนฯ ซิตี้ ไปเลย
แต่ถ้าบุกไปสอยทัพ “นักบุญ” ได้ ก็จะต้องไปลุ้นต่อกันในเกมสุดท้ายที่จะเฝ้ารังรับมือ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ขณะที่แมนฯ ซิตี้ จะดวลกับแอสตัน วิลลา ที่สตีเวน เจอร์ราร์ด ตำนานนักเตะ “หงส์แดง” คุมทัพอยู่
โดยก่อนหน้านี้ “พี่เจิด” ก็ให้คำมั่นสัญญากับสาวก “เดอะ ค็อป” ทุกท่านแล้วว่าจะทำทุกวิถีทางที่จะบุกไปเอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” ถึงเอติฮัดให้ได้
แม้ว่าในความเป็นจริงมันจะดูค่อนข้างยาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเป็นไปได้!!
ก่อนที่จะหวังพึ่งตำนานอย่าง เจอร์ราร์ด ตอนนี้คือ “หงส์แดง” ต้องช่วยตัวเองก่อนด้วยการโค่น “เซาแธมป์ตัน” ให้ได้
เพราะถ้าทำไม่ได้ทุกอย่างก็คือจบ!!!
สนับสนุนโดย Tiger168 สมัครเล่นคาสิโนหรือสล็อตผ่าน Line : @Tiger168s