ศึกยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยว กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทีมชาติอิตาลี ที่คว้าชัยมา 3 เกมรวดในรอบแรก ลงสนามพบกับ ออสเตรีย ครึ่งแรกเป็นพลพรรค “อัซซูรี” ที่เดินหน้าบุกแหลก แต่ยังไม่สามารถส่งบอลผ่านมือ ดาเนียล บัคมันน์ นายทวารของออสเตรีย ได้ครบ 45 นาทีทั้ง 2 ทีมจึงยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง ออสเตรีย แก้เกมมาดี และไล่บี้อิตาลีจนเกือบไปไม่เป็น นาทีที่ 65 กองเชียร์อิตาเลียน ใจหายวาบ เมื่อ มาร์โก อาร์เนาโตวิช โขกบอลผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมมา เข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตูเนื่องจากเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ครบ 90 นาที อิตาลี เสมอ ออสเตรีย 0-0 ต้องไปหาผู้ชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษต่อไป
ช่วงต่อเวลาพิเศษ อิตาลี โจมตีเร็วทันที และมาได้ประตูออกนำ 1-0 จาก เฟเดริโก เคียซา ดาวยิงตัวสำรอง ในนาทีที่ 95 หลังเสียประตู ออสเตรีย พยายามเดินหน้าเข้าใส่เพื่อทวงประตูตีเสมอ ทว่าสุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ แถมยังโดน ทีมมะกะโรนี หนีไปเป็น 2-0 จากฝีเท้าของ มัตเตโอ เปสซินา ในนาทีที่ 105 อีกต่างหาก กระทั่งนาทีที่ 114 ออสเตรีย จึงตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 ได้สำเร็จจากการโหม่งของ ซาซา คาลาดซิช จากนั้นไม่มีใครทำอะไรกันได้อีก จบเกม อิตาลี ชนะ ออสเตรีย แบบหืดจับ 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศไปรอพบกับผู้ชนะระหว่าง เบลเยียม กับ โปรตุเกส ที่สนามอัลลิอันซ์ อารีนา เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ในวันศุกร์ที่ 2 ก.ค.นี้ต่อไป.
สนับสนุน Tiger168 โดย Line : @Tiger168s